รู้หรือไม่? ว่านอกจากจะลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายแล้ว ก็ยังมีวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้ลดน้ำหนักได้ดี อีกหนึ่งวิธีคือ การควบคุมปริมาณแคลอรี่ต่อวันของอาหารที่เรากินเข้าไปนั่นเอง ซึ่งการกินแบบนับแคลอรี่นั้นจะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
หลักการง่ายๆ ของการลดน้ำหนัก คือ เอาเข้าให้น้อยกว่าเอาออก หากกินไม่เกินปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการต่อวัน จะช่วยให้เราลดและควบคุมน้ำหนักได้อย่างแน่นอน
โดยวิธีที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้คือ วิธี คำนวณปริมาณแคลอรี่ต่อวัน ด้วยสูตร Basal Metabolic Rate (BMR) หรือการหาค่าพลังงานที่ร่างกายต้องการอย่างน้อยที่สุดในแต่ละวัน เพื่อให้คุณกินอาหารได้อย่างเหมาะสมมากขึ้นค่ะ
สารบัญเนื้อหา
- BMR คืออะไร
- วิธีคำนวณ BMR
- วิธีคำนวณหาปริมาณแคลอรี่ที่เหมาะสมกับกิจกรรมของเราในแต่ละวัน
- การควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก
มารู้จักกันก่อนว่า BMR คืออะไร
BMR ที่พูดถึงนี้ คือ Basal Metabolic Rate หรือ ค่าที่บ่งบอกถึงพลังงานที่ร่างกายต้องการน้อยที่สุดในแต่ละวัน เพื่อให้ระบบต่างๆ สามารถทำงานได้ แม้ในตอนที่เราอยู่เฉยๆ หรือไม่ได้ทำกิจกรรมใดๆ
นั่นหมายความว่า ค่า BMR ที่เราได้นั้น คือ ปริมาณแคลอรี่ในหนึ่งวันที่ร่างกายเราใช้ แม้ว่าวันนั้นเราจะไม่ทำกิจกรรมใดๆ เลย เมื่อเราได้ค่า BMR ของเรามาแล้ว จะได้ทราบว่าเราควรกินอาหารในปริมาณเท่าใด เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้พลังงานของร่างกายของเรา
วิธีการคำนวณค่า BMR
จริงๆ แล้วการคำนวณค่า BMR นั้นมีมากมายหลายสูตร วันนี้ Fit Me ได้เลือกหนึ่งสูตรการคำนวณที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยการคำนวณด้วยวิธีนี้อาจจะต้องบวกลบคูณหารกันสักเล็กน้อย เพื่อให้ได้ค่าของแคลอรี่ที่แม่นยำมากที่สุด ซึ่งสูตรนี้จะใช้น้ำหนัก ส่วนสูง อายุ และเพศในการคำนวณค่ะ
หมายเหตุ ในผู้ชายและผู้หญิงมีสูตรในการคำนวณที่แตกต่างกัน เพราะชายและหญิงนั้นมีอัตราการเผาผลาญพลังงานในแต่ละวันที่ไม่เท่ากัน จึงต้องแยกคำนวณตามสูตรดังต่อไปนี้
BMR สำหรับผู้ชาย = 66 + (13.7 X น้ำหนักตัวปัจจุบันเป็นกิโลกรัม) + (5 x ส่วนสูงปัจจุบันเป็นเซนติเมตร) – (6.8 x อายุปัจจุบัน)
BMR สำหรับผู้หญิง = 665 + (9.6 x น้ำหนักตัวปัจจุบันเป็นกิโลกรัม) + (1.8 x ส่วนสูงปัจจุบันเป็นเซนติเมตร) – (4.7 x อายุปัจจุบัน)
ซึ่งค่าที่ได้จากการคำนวณด้วยสูตรนี้ คือ จำนวนพลังงานที่ร่างกายของแต่ละคน ควรได้รับเป็นอย่างน้อยในแต่ละวัน
ยกตัวอย่าง เช่น
ผู้หญิงมีน้ำหนักตัวปัจจุบันที่ 55 กิโลกรัม มีส่วนสูง 160 เซนติเมตร และมีอายุ 25 ปี ซึ่งสามารถนำไปคำนวณได้ดังนี้
665 + (9.6 x 55) + (1.8 x 160) – (4.7 x 25) = 665 + 528 + 288 – 117.5 = 1,363.5 แคลอรี่
นั่นหมายความว่า พลังงานที่จำเป็นที่ร่างกายต้องได้รับอย่างน้อยในแต่ละวันนั้น อยู่ที่ 1,364 แคลอรี่ ซึ่งถือเป็นค่าตั้งต้น ที่เกิดจากการคำนวณในช่วงที่ร่างกายอยู่เฉยๆ ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมแต่อย่างใด
ดังนั้น ต้องไม่ลืมด้วยว่าในชีวิตประจำวันของคนเรานั้น มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการยืน เดิน วิ่ง ทำงานบ้าน ออกกำลังกาย ซึ่งการทำกิจกรรมเหล่านี้ก็จะมาเป็นตัวเพิ่มจำนวนแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับในแต่ละวันมากขึ้นไปอีกด้วย
การคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่เหมาะสมกับกิจกรรมของเราในแต่ละวัน
อย่างที่เราได้บอกไปแล้วว่า การได้ค่า BMR มานั้นเป็นเพียงจำนวนแคลอรี่ที่ร่างกายใช้โดยไม่มีกิจกรรมใดๆ แต่เมื่อเราออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมอื่นๆ แม้กระทั่งงานบ้าน กิจกรรมเหล่านี้ส่งผลให้ร่างกายใช้พลังงานมากขึ้น
ดังนั้น Fit Me จะพาไปดูกันต่อว่า หากเราทำกิจกรรมอื่นๆ ร่างกายของเราจะใช้พลังงานประมาณเท่าไหร่ต่อวัน เพื่อให้เราสามารถวางแผนการกินเพื่อลดน้ำหนักได้อย่างถูกต้องค่ะ
เรากำลังพูดถึงค่า TDEE (Total Daily Energy Expenditure) คือ ปริมาณการใช้พลังงานของร่างกายของแต่ละคนในหนึ่งวัน ซึ่งแต่ละคนจะใช้พลังงานไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับค่า BMR และประเภทของกิจกรรมของแต่ละคนด้วยค่ะ
มาลองดูกันนะคะว่า สาวๆ มีกิจกรรมในการออกกำลังกายอย่างไรกันบ้าง เพื่อคำนวณหาแคลอรี่ที่ร่างกายต้องการต่อวันโดยเฉลี่ย โดยใช้ค่า BMR ที่เราหามาได้เป็นตัวตั้งค่ะ
- นั่งทำงานอยู่กับที่ ไม่ได้ออกกำลังกายเลย = BMR x 1.2
- ออกกำลังกายเบาๆ 1-3 วันต่อสัปดาห์ = BMR x 1.375
- ออกกำลังกายปานกลาง 3-5 วันต่อสัปดาห์ = BMR x 1.55
- ออกกำลังกายหนัก 6-7 วันต่อสัปดาห์ = BMR x 1.7
- ออกกำลังกายอย่างหนักเป็นประจำ เพื่อซ้อมในการแข่งขัน = BMR x 1.9
การควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนัก
เมื่อเราทราบค่า TDEE นั่นคือ ปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายของเราต้องการใช้ในการทำกิจกรรมในแต่ละวันแล้ว ในการลดน้ำหนัก
แนะนำให้ลดปริมาณพลังงานให้น้อยกว่าที่ร่างกายเราใช้วันละประมาณ 500 แคลอรี่ แต่เมื่อลบออก 500 แคลอรี่แล้ว จะต้องห้ามน้อยกว่าค่า BMR ที่เราคำนวณได้นะคะ
ปริมาณแคลอรี่ที่แนะนำเพื่อลดน้ำหนัก = TDEE – 500
(ปริมาณแคลอรี่ที่แนะนำห้ามน้อยกว่า BMR)
เพราะถ้าเรากินน้อยกว่าค่า BMR จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานน้อยเกินไป เมื่อร่างกายเรียนรู้ว่าได้รับพลังงานน้อยมาก ก็จะไม่ยอมใช้พลังงานตามปกติ อาจส่งผลให้ระบบเผาผลาญของเราพังได้ค่ะ
ตัวอย่างการคำนวณปริมาณแคลอรี่ต่อวันเพื่อลดน้ำหนัก
เช่น ผู้หญิงที่เราคำนวณไว้ข้างต้นมีค่า BMR = 1,364 แคลอรี่ เป็นคนออกกำลังกายเบาๆ อาทิตย์ละ 1-3 วัน ดังนั้นพลังงานที่เหมาะสมที่ร่างกายใช้ต่อวัน (TDEE) คือ 1,364 x 1.375 = 1,875.5 แคลอรี่
ถ้าต้องการลดน้ำหนักจำนวนแคลอรี่ที่ควรได้รับต่อวันประมาณ 1,876 – 500 = 1,376 แคลอรี่นั่นเอง จะสังเกตเห็นว่าค่าที่คำนวณได้ (1,376) มากกว่าค่า BMR (1,364)
หากเรากินน้อยกว่าพลังงานที่เราใช้ 500 แคลอรี่ต่อวัน ในหนึ่งสัปดาห์น้ำหนักเราจะลดลงประมาณ 0.5 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นการลดน้ำหนักที่ดีต่อสุขภาพ และไม่หักโหมจนเกินไปค่ะ
และถึงแม้ว่าเราจะกินอาหารไม่เกินแคลอรี่ที่เราคำนวณไว้ แต่อยากให้สาวๆ ใส่ใจในการเลือกประเภทอาหารด้วยนะคะ ควรเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อให้ลดน้ำหนักอย่างมีสุขภาพดี และได้ผลที่ยั่งยืนค่ะ
สรุป
เห็นมั้ยคะว่า แม้สาวๆ จะไม่ได้ออกกำลังกายก็ลดน้ำหนักได้นะคะ ด้วยการควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่เรากินเข้าไป โดยสามารถใช้สูตรนี้คำนวณคร่าวๆ ถึงปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน หากกินไม่เกินพลังงานที่ร่างกายต้องการตามที่เราคำนวณออกมา รับประกันได้ว่าสาวๆ ก็สามารถลดน้ำหนักได้อย่างแน่นอนค่ะ
แต่การออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยจะทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้น และทำให้สัดส่วนกระชับ สุขภาพจิตดี พร้อมกับอย่าลืมเลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์เพื่อสุขภาพที่ดีด้วยนะคะ
จบแล้ว…ไว้พบกันใหม่บทความหน้านะคะ
Fit Me ฝากกด Like เพจด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาดบทความดีๆ จากเรา
บทความล่าสุด
วิ่ง ออกกำลังกาย
ข้อดี ข้อเสีย การวิ่งตอนเช้ากับตอนเย็น วิ่งตอนไหนดีกว่ากัน
บอดี้เวท ออกกำลังกาย
10 ท่าลดต้นแขนย้วน ไม่กระชับ สำหรับผู้หญิง ท่าบริหารง่ายๆ
ออกกำลังกาย
คาร์ดิโอ คืออะไร มีอะไรบ้าง ช่วยลดพุง ลดไขมัน ต้องออกกำลังกายกี่นาที
บทความยอดนิยม
สุขภาพ
เคล็ดลับวิธี คำนวณปริมาณแคลอรี่ ที่ต้องการต่อวัน
ออกกำลังกาย เคล็ดลับ
ออกกำลังกายลดน้ำหนักให้ได้ผล “คาร์ดิโอ กับ เวทเทรนนิ่ง” แบบไหนได้ผลกว่ากัน
วิ่ง ออกกำลังกาย
วิ่งลดน้ำหนัก วิ่งยังไงให้ผอม ไปอ่านวิธีที่ถูกต้องกัน รับรองลดความอ้วนได้แน่
หมวดหมู่สินค้า
สปอร์ตบรา
เสื้อกีฬา
กางเกงขาสั้น
กางเกง 5 ส่วน
กางเกงขายาว
อื่นๆ